ศาสตร์และศิลป์ สำหรับเด็กประถม หุ้นเป็น ศาสตร์และศิลปะ
การคัดเลือกหุ้นสำหรับลงทุน ผมคิดว่ามันเป็นงานที่ต้องใช้ ทั้งศิลปะและวิทยาศาสตร์ ถ้าเราให้น้ำหนัก ทางด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป ก็ทำให้การลงทุนของเราล้มเหลวลงได้ เช่น นักลงทุนที่สนใจมุ่งดูแต่ตัวเลข และงบดุลจากรายงานผลประกอบการอย่างเดียว ถ้าพวกเขาสามารถบอกอนาคตของบริษัท จากการดูงบดุลได้ ผมคิดว่านักคณิตศาสตร์โอลิมปิค และนักบัญชีคงจะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกไปแล้ว และดูเหมือนคนที่จบสายวิทยาศาสตร์มา จะมีความลุ่มหลงศาสตร์ด้านนี้มากเป็นพิเศษ เช่น นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก เซอร์ไอแซ็คนิวตัน ได้ลงทุนในหุ้น และเขาขาดทุนเป็นเงินจำนวนมาก ในวิกฤติการณ์ฟองสบู่เซ้าท์ซี เขากล่าวภายหลังว่า ‘ผมสามารถคำนวณการเคลื่อนไหวของดวงดาวได้ แต่ผมไม่สามารถคำนวณความบ้าคลั่งของคน’ จากผลที่เขาเน้นการคำนวณมากเกินไป ในอีกด้านคนที่ เน้นแต่ศิลปะ โดยไม่สนใจงบดุลเลย ก็อาจจะได้หุ้นที่ดีแต่ราคาแพง ซึ่งผมเรียกว่าถูกตัวแต่ไม่ถูกเวลา ซึ่งก็สามารถสร้างความเจ็บปวดไม่แพ้ เซอร์ไอแซ็คนิวตัน ได้เหมือนกัน
สำหรับผม ให้น้ำหนักของศาสตร์และศิลปะเท่ากัน แต่ถ้าพูดถึงความยากง่ายและระยะเวลา ผมใช้ศาสตร์ที่ง่าย ๆ ไม่สลับซับซ้อนเกินชั้นประถม ใช้เวลาไม่เกิน 10% ส่วนศิลปะที่ใช้ต้องยอมรับว่าใช้ประสบการณ์ และมุมมองที่เหนือชั้นกว่าปกติ และใช้เวลาถึง 90% ของขบวนการวิเคราะห์หุ้นทั้งหมด หรือจะเรียกสรุปว่า "ศิลปะชั้นสูง ศาสตร์ชั้นต่ำ" ก็ได้ครับ |
|